เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ.2542 (ไม่นานครับ ไม่นาน ขณะที่นั่งพิมพ์อยู่นี้เพิ่งผ่านมาได้แค่ 13 ปีเท่านั้นเอง ผมยังไม่แก่นะครับ) หลังจากการประกาศผลสอบเข้าเตรียมทหารรอบสุดท้าย มีชื่อ นายเสมา กระต่ายทอง อยู่บนบอร์ดประกาศผลที่กลางสนามเกิดผล โรงเรียนเตรียมทหาร (สมัยที่ยังอยู่ที่พระราม4) ยังความปลาบปลื้มดีใจให้กับครอบครัวกระต่ายทองกันยิ่งนัก แอดมินกอดกับคุณแม่ดีใจกันเลยทีเดียว แม่ถึงกับออกปากชมว่า "เก่งมากลูก เก่งมาก" ทั้งที่ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้ยินแม่ชมว่าเก่งเลยเนี่ยนะ ส่วนพ่อก็โทรศัพท์มือถือ (เพิ่งซื้อมาใหม่ตอนนั้น) บอกญาติพี่น้อง นี่ถ้าประกาศออกทีวีแบบคณะปฏิวัติรัฐประหารได้ คงทำไปแล้ว
บรรยากาศวันนั้นแม้ร้อนอบอ้าว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ครอบครัวของเราย่อท้อ เนื่องจากดีใจกันจนลืมอากาศร้อน แอดมินก็เตรียมตัวจะขึ้นไปรายงานตัว ณ อาคารกองพลศึกษา โรงเรียนเตรียมทหาร พร้อม ๆ กับว่าที่นักเรียนเตรียมทหารคนอื่นที่สอบผ่านรอบสุดท้าย ดูจากหน้าตาแต่ละคนแล้ว คงนึกกันไม่ค่อยถึงว่าจะเจออะไรบ้างเมื่อได้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนเตรียมทหารนี่จริง ๆ
โดยสีหน้าของนักเรียนที่สอบผ่านมักจะเป็นแบบนี้ ขออนุญาตน้องเจ้าของภาพด้วยนะครับ รู้สึกจะเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 54 ห่างกับผมแค่ 1 รอบเท่านั้นเอง นิดเดียว
ที่มาของภาพ : http://www.thaicadet.org/article/Drop_For_What.html
สนามเกิดผล ในอดีต ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของสวนลุมไนท์บาร์ซ่า
ที่มาของภาพ : http://www.navy84.com/index.php?lay=show&ac=photo_view&event_id=1201&pagephoto=1เมื่อรายงานตัวเสร็จเรียบร้อยก็นัดวันทำสัญญานั่นโน่นนี่หลายอย่าง สุดท้ายก็ถึงวันส่งตัวเข้าโรงเรียนเตรียมทหารสักที โดยกำหนดการที่แจ้งให้ทราบมาแล้วล่วงหน้าก็คือ จะไม่มีการปล่อยพักบ้านในช่วงการเป็นนักเรียนใหม่เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ซึ่งนักเรียนที่เข้ามาเป็น นตท.ชั้นปีที่ 1 ใหม่ ๆ จะไม่ถูกเรียกว่าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร แต่จะเรียกกันว่า "นักเรียนใหม่" เนื่องจากเป็นช่วงที่เป็นการปรับจากนักเรียนพลเรือน มาเป็นนักเรียนทหาร อย่างที่ภาษาทหารเขาเรียก "สีเขียวยังไม่จับกบาล" ว่างั้นเหอะ
สำหรับตัวแอดมินเอง ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยจากบ้านนาน ๆ รู้ดังนี้เข้าก็หวั่น ๆ เหมือนกัน แต่ก็เอาวะ ลองดูสักตั้ง โดยการรายงานตัวในวันแรกไปพร้อมสัมภาระตามที่โรงเรียนเตรียมทหารกำหนดให้นำไป เช่นของใช้ส่วนตัว เล็กน้อย ๆ เดี๋ยวอย่างอื่นโรงเรียน ฯ จะแจกให้เอง การแต่งกายไปรายงานตัวพร้อมเข้าศึกษาในโรงเรียนเตรียมทหาร ปัจจบันแอดมินไม่แน่ใจว่าเปลี่ยนแปลงหรือยัง แต่ตอนนั้น(ปี 2542) ใช้การแต่งกายคือ ชุดนักเรียนโรงเรียนเก่านั่นแหละ แต่ให้เลาะชื่อโรงเรียน ชื่อตัว สัญลักษณ์ต่าง ๆ จากโรงเรียนเก่าออกให้หมด ส่วนทรงผมให้ตัดสั้นเกรียน สั้นจนเกือบจะโกนเลยก็ว่าได้ คือด้านข้างเกรียน ด้านบนอนุญาตให้ไว้ยาวได้เท่าหัวไม้ขีดสีแดง ๆ แต่สิ่งที่แปลกตาดีก็คือ เมื่อนักเรียนใหม่มาเข้าแถวรวมกัน หัวเกรียนเหมือนกัน เสื้อนักเรียนสีขาวเหมือนกัน แต่กางเกงนักเรียนนี่ บางคนก็สีดำ บางคนสีน้ำตาล บางคนสีน้ำเงิน มารวม ๆ กันในแถวก็แปลกตาดีนะครับ
เมื่อรวมแถวกันก็มีการแนะนำนักเรียนบังคับบัญชา หรือเรียกกันสั้น ๆ ว่า "คอมแมนด์" ย่อมาจาก commander ที่แปลว่าผู้นำ เป็นนักเรียนเตรียมทหารปี 2 (รุ่น 41) ให้พวกเราได้รู้จัก ตัวแอดมินเองก็ไม่ค่อยได้สนใจหรอกครับ แต่ก็ดูเท่ห์ดี เครื่องแบบชุดปกตินักเรียนเตรียมทหารฟิตเปรี๊ยะ ตึงทุกสัดส่วน เห็นแล้วอยากใส่บ้าง
นักเรียนใหม่จะถูกแบ่งออกเป็น 2 กองพัน คือสั่งกัดกองพันนักเรียนที่ 2 และกองพันนักเรียนที่ที่ 4 แต่ละกองพันแบ่งได้อีก 3 กองร้อย กองร้อยละ 3 หมวด ส่วนตัวแอดมินเองอยู่ หมวด 1 ร้อย 3 กองพันที่ 2 โรงนอนอยู่ชั้น 5 ของตึกกองพันที่ 2 แน่ะ เรียกว่าวิ่งขึ้นไปนี่เมื่อยเอาเรื่องเหมือนกัน
กองพันนักเรียน โรงเรียนเตรียมทหารในขณะนั้น
หลังจากเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นการพาเยี่ยมชมและแนะนำสถานที่ และการรับประทานอาหารกลางวัน โดยการเคลื่อนไหวของนักเรียนใหม่จะเป็นการวิ่งทั้งหมด เหงื่องี้ออกตลอดเวลา โดยในวันแรกนี้จะไม่เข้มระเบียบมากนัก ซึ่งจุดมุ่งหมายของระบบนักเรียนใหม่ก็คือการค่อย ๆ ปรับสภาพ จากนักเรียนพลเรือนมาเป็นนักเรียนเตรียมทหาร โดยค่อย ๆ สอนระบบระเบียบทหารไปทีละเล็กทีละน้อย หากเล่นหนักตั้งแต่วันแรกเลย สงสัยลาออกกันยกแผง ซึ่งการฝึกปรับสภาพมีเวลาทั้งสิ้น 3 สัปดาห์ หากมีคนลาออกในช่วงนี้จะไม่เสียค่าปรับ และทางโรงเรียน ฯ จะเรียกผู้ที่สอบได้อันดับสำรองเข้ามาแทนที่แต่ถ้าไปลาออกทีหลังจาก 3 สัปดาห์แรกไปแล้วล่ะก็ต้องเสียค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 30,000 บาท
สิ่งทีสร้างปัญหาให้แอดมินก็คือ การหัดนั่งท่าอัศวินครับ ใช้เวลานั่งฟังคำชี้แจง กระทำโดยเริ่มจากท่ายืน ตบเท้าขวาไปด้านหน้าเล็กน้อย แล้่งนั่งย่อลง มือขวากำหลวม แขนท่อนล่างพาดบนเข่า แลดูสมาร์ท เหมือนอัศวินกำลังนั่งรอฟังคำบัญชาจากพระราชาเลยนะครับ ขออภัยที่หาภาพมาให้ดูไม่ได้ แอดมินอยากบอกว่า นั่งนาน ๆ มันเมื่อยนะครับ แม้จะเปลี่ยนข้างคุกเข่าแล้วก็ตาม นั่ง ๆ ลุก ๆ ลุก ๆ นั่ง ๆ บ่อยเหลือเกิน เข่าดังกร๊อบเลยนะ ปวดอะครับ วิ่งกะเผลกเลยวันแรก (สงสัยเราจะอ่อนแอจริง ๆ )
จากที่บอกไปแล้วในวันแรก ระเบียบจะยังไม่ค่อยเข้มเท่าไร แต่สำหรับนักเรียนใหม่แล้วการเคลื่อนที่ออกนอกชายคาใช้การวิ่งเสมอ แม้จะวิ่งไปรับประทานอาหารก็ตาม สถานที่รับประทานอาหารของทหารเขาเรียกว่าโรงเลี้ยง การนั่งรับประทานจะนั่งเป็นวง โต๊ะสี่เหลี่ยม มีหม้อข้าวและโถน้ำ มีกับข้าว 2-3 อย่าง ภาชนะที่ใช้เป็นสแตนเลส มื้อแรกก็กินกันเสียงดังโช้งเช้ง ๆ ประหนึ่งดูหนังจีนกำลังภายในสู้ฟันกันด้วยดาบก็ไม่ปาน ภาษาทหารเขาเรียกว่า "กินเสียงดังยังกะโรงตีเหล็ก" แต่ไม่เป็นไร มื้อแรก ๆ คอมแมนด์อนุญาตให้รับประทานตามสบายก่อนได้ เดี๋ยวจะเข้าระเบียบในมื้อถัด ๆ ไป
โรงเลี้ยงเป็นอาคาร 2 ชั้น ชั้นบนเป็นโซนนิ่งของพี่ชั้นปีที่ 2 ส่วนนักเรียนใหม่ทานที่ชั้นล่าง มีพนักงานโรงเลี้ยงคอยเติมข้าวเต็มน้ำให้เรา เมื่อข้าวหมดโถ น้ำหมดเหยือก แอดมินขอสารภาพว่า มื้อแรกของแอดมินในโรงเรียนเตรียมทหาร คือมื้อเที่ยง หิวมาก ซัดไปตั้ง 3 จานแน่ะ
ภารกิจในช่วงบ่ายก็ยังคงเป็นการแนะนำสถานที่ เนื่องจากโรงเรียนเตรียมทหารกว้างมาก วิ่งไปวิ่งมาหลายที่ ไม่ว่าจะเป็น กรมนักเรียน ส่วนการศึกษา กองพลศึกษา ฯลฯ เล่นเอาเพลียเลยครับ
ตกเย็นมาเป็นการอาบน้ำ ใจเริ่มตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ เนื่องจากได้ยินมาว่าทหารอาบน้ำรวม เกิดมายังไม่ให้ใครเห็นปิ๊กาจู้เลยให้ตายสิ เขินนะเนี่ย แต่พอเอาเข้าจริง พี่คอมแมนท่านให้ยืนเข้าแถวปลายเตียงนอน แล้วสั่งให้ทุกคนแก้ผ้าอย่างเร็ว บอกว่านักเรียนไม่ต้องอาย ผู้ชายเหมือนกัน ผลน่ะเหรอครับ ทุกคนแก้ผ้าอย่างไว มีบ้างอิดออด เอามือปิด ๆ สงสัยจู๋เล็ก แต่เราไม่มีเวลาอายจริง ๆ ครับ หลังจากแก้ผ้าแล้ว คอมแมนด์ท่านให้เวลาเราอาบน้ำแค่ 3 นาทีเท่านั้น ทุกคนวิ่งไปอาบน้ำอย่างไว
ห้องอาบน้ำเป็นห้องกว้าง ๆ ด้านซ้ายและขวาเป็นอ่างน้ำยาว มีน้ำอยู่เต็มให้พวกเราได้ใช้ขันจ้วงกันอย่างเมามันส์ ส่งเสียงดังเอะอะ จนคอมแมนด์ต้องเดินมาเร่งให้อาบเร็ว ๆ พร้อมนับถอยหลัง 10 9 8 7 ...... 2 1 พวกเราจึงต้องรีบวิ่งโทง ๆ เหมือนผีเปรตออกไปแต่งกายเป็นชุดพละ พร้อมปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ในช่วงค่ำต่อไป
แล้วเวลาเข้านอนก็มาถึง แอดมินยอมรับว่าเหนื่อยมากครับ เซ็งด้วย อะไรกันนักกันหนา ทั้งวันเลย ไม่มีเวลาว่างให้เราบ้างหรือไง จิตใจมันสับสน กำลังใจถดถอย คิดถึงบ้านก็คิดถึง นี่อะไรกัน เรามานอนโรงนอนขนาดยาว เพื่อนนอนอยู่เต็ม เตียงข้าง ๆ แอดมินเป็นเพื่อนเหล่าตำรวจ มาจากจังหวัดสตูล เป็นเพื่อนคนแรกของผมในโรงเรียนเตรียมทหาร (ปัจจุบันรับราชการอยู่ที่ สภ.สงขลา) เราปรับทุกข์กันเล็กน้อย เพราะต่างคนต่างก็ใหม่เหมือนกัน วันนี้โดนทำโทษเล็กน้อย แค่ดันพื้น พรุ่งนี้จะเจออะไรบ้างหนอ คิดถึงบ้านจัง อยากกลับบ้าน คิดถึงเพื่อนที่โรงเรียนเก่าด้วย เงยหน้ามองบนเพดานก็เจอพัดลมขนาดใหญ่ นี่เรามาทำอะไรที่นี่หนอ คิดถึงจุดนี้แล้วแอดมินก็ผลอยหลับไป
ไม่ได้อ่านว่ะ แต่เห็นเสมา
ตอบลบเห็นที่ไหนอะ
ตอบลบเขียนน่าอ่านดีค่ะ เขียนมาอีกนะ จะติดตาม
ตอบลบเหมือนเกิดขึ้นเมื่อวานนี่เอง
ตอบลบมีเรื่องราวในหัวอีกเยอะครับ รับรองจะกลั่นกรองมาให้อ่านกันอีกแน่นอน
ตอบลบอ่านแล้วนะคะ..ชมพู่
ตอบลบชอบ ลงนามแล้ว
ตอบลบอ่านแล้วเห็นภาพเหมือนจริงเลย
ตอบลบสุดยอกว่ะเหมา
ตอบลบอ่านแล้วเห็นภาพ เล่าเรื่องสนุก น่าติดตาม น่าจะเขียนตอนขึ้นเหล่าบ้าง
ตอบลบแสดงว่าประทับใจมากใช่แมะ
ตอบลบโรงเรียนลูกผู้ชาย จริงๆค่ะ หัวอกคนเป็นแม่อย่างดิฉันอ่านแล้วอดน้ำตาไหลไม่ได้ สงสาร คิดถึง เป็นห่วง แต่รวมๆ แล้วคือความภาคภูมิใจในตัวลูกชาย ในวันนึงเค้าจะได้เป็นทหารตำรวจที่ดีและเก่งได้ เหมือนท่าน ร.อ.เสมา กระต่ายทอง นะคะ..แต่ตอนนี้เรียนอยู่ ม.2 เอง (ไม่ว่ากันนะคะใฝ่ฝันมากไปมั้ยนะ)
ตอบลบหนุกครับ ปีหน้าผมก็ ม.3 แล้ว
ตอบลบCase Of Two Blades In One - Titanium Phone Case
ตอบลบThe two-blade titanium iv chloride blades come with titanium hair trimmer a solo titanium razor padded cap, titanium guitar chords which is approximately 1.5 cm high. The titanium build tip is a good size for a two-blade razor.