วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555

ชีวิตนักเรียนใหม่เตรียมทหาร ตอนที่ 2 : ผมอยากกลับบ้าน


เช้าวันต่อมาผมสะดุ้งตื่นด้วยเสียงแตร เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเสียงแตรแบบนี้ มันดังแปลก ๆ หูพิลึก (ภายหลังทราบว่ามันคือแตรปลุก) พลิกตัวหยิบนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเป็นเวลา 05.30 น. ทันใดนั้นก็มีเสียงคอมแมนด์เป่านกหวีดและตะโกนจากหัวโรงนอน สั่งให้พวกเรารีบลงไปรบแถวให้เสร็จก่อนเสียงแตรจบ เสียงเอี๊ยดอ๊าดจากการขยับกันของเตียงเหล็กและเสียงตึงตังจากการวิ่งเกิดขึ้นชุลมุน แอดมินเองก็รีบกุลีกุจอหยิบถุงเท้ารองเท้าผ้าใบจากใต้เตียงวิ่งลงไปรวมแถวข้างล่าง แต่ขณะผ่านห้องน้ำยังไม่วายรีบเข้าไปฉี่เสียก่อน จากนั้นจึงรีบวิ่งลงมาด้านล่าง เสียงแตรปลุกจบไปแล้ว พวกที่ยังรวมแถวไม่เสร็จรวมถึงแอดมินด้วย ก็ถูกคอมแมนด์ทำโทษเล็กน้อยด้วยการยึดพื้น เสร็จแล้วจึงเข้าไปรวมแถว

เริ่มเช้าตรู่วันใหม่ด้วยการกายบริหาร ฟ้ายังไม่สว่างเลยครับ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยกายบริหารตั้งแต่ตอนเช้าขนาดนี้มาก่อน คอมแมนด์ก็สอนกายบริหารสไตล์ทหารให้ มีขั้นตอนจุกจิกเยอะแยะเหมือนกัน ยิ่งกว่าตอนไปเข้าค่ายลูกเสืออีก แอดมินเองที่ยังไม่หายเซ็งตั้งแต่เมื่อวาน ก็จำใจกายบริหารประกอบความง่วงไป หลังจากกายบริหารเสร็จก็เป็นการวิ่งรวมแถวออกกำลังกาย

ขณะวิ่งก็ต้องร้องเพลงไปด้วย เพลงที่คอมแมนด์สอนให้พวกเราร้องนั่นแหละ “นักเรียนเตรียมทหาร นักเรียนเตรียมทหาร ใจและกายชายชาญ เลือดทหารแรงกล้า....” แค่วิ่งธรรมดาก็เหนื่อยอยู่แล้ว ยังต้องร้องเพลงอีก ความจริงแล้วการวิ่งและร้องเพลงไปด้วยมันทำให้บรรยากาศในการออกกำลังกายสนุกนะครับ เหนื่อยน้อยลงด้วย แถมได้ความสามัคคี แถมเป็นการปลูกฝังอุดมการณ์รักชาติรักสถาบันอีกด้วย

การวิ่งออกกำลังกายของ นตท.
ที่มาของภาพ : http://krarok.diaryis.com/2005/11/25



มาร์ชนักเรียนเตรียมทหารครับ แต่ในภาพเป็นที่โรงเรียนเตรียมทหาร จ.นครนายกนะครับ

การวิ่งออกกำลังกายเป็นแถว สำหรับแอดมินแล้ว จากนักเรียนพลเรือนอายุ 18 ปี ที่ร่างกายก็ไม่ค่อยจะฟิตอยู่แล้ว ต้องมาวิ่งซะหลายรอบ เล่นเอาหมดแรงเหมือนกัน กว่าจะได้กลับมาอาบน้ำ(ซึ่งให้เวลาน้อยนิดเหมือนเคย) และรับประทานอาหารเช้าก็เล่นเอาเหงื่อโทรม

แอดมินสมัยเป็นนักเรียน ม.ปลาย ผมดกดำกว่าตอนนี้เยอะ แต่หล่อสู้ตอนปัจจุบันนี้ไม่ได้

หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะเป็นการฝึกสำหรับนักเรียนใหม่ โดยจะเน้นการฝึกวินัยทหารเบื้องต้น เช่น ฝึกบุคคลท่ามือเปล่า (ประเภทวันทยาหัตถ์ ซ้ายหันขวาหัน วิ่ง ฯลฯ ประมาณนี้) และธรรมเนียมของทหาร โดยการฝึกจะเป็นการฝึกแบบ 50 นาที พัก 10 นาที พอถึงเวลา 12.00 ก็รับประทานอาหารเที่ยง ช่วงบ่ายก็ฝึกเหมือนเดิม ตกเย็นเวลา 16.00 น.ก็รวมแถวออกกำลังกายอีก เรียกได้ว่า เหงื่อโทรมทั้งวัน

ตกค่ำก็จะเป็นการนั่งเรียนในห้องฝึกฝน (ห้องโถงขนาดใหญ่ มีโต๊ะประจำตัวสำหรับนั่งทำการบ้าน อ่านหนังสือ) โดยเรียน หรือฟังบรรยายเรื่องธรรมเนียมทหารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นระเบียบการปฏิบัติตัว ร้องเพลงสถาบัน ร้องเพลงโรงเรียนเหล่า) จากนั้นเวลา 21.30 น.ก็เข้าแถวสวดมนตร์ และเข้านอนตอนสี่ทุ่มตรง

การที่นักเรียนใหม่มีเวลาส่วนตัวอันน้อยนิด แถมเหงื่อโทรมกายได้ทั้งวัน ปัญหาที่ตามมือคือโรคผิวหนัง โดยเฉพาะในร่มผ้า ก็คือกลากเกลื้อนนั่นแหละ ยิ่งเป็นตามง่ามขา ง่ามก้น เราก็เรียกว่าสังคัง เหงื่อออกทั้งวันไม่เท่าไร เพื่อนแอดมินบางคนแม่งใส่กางเกงในซ้ำ เนื่องจากไม่มีเวลาซัก นั่นแหละ สังคังก็ถามหา แอดมินเคยเป็นนะครับ ยอมรับแต่โดยดี เกามันส์ดีจริง ๆ ยิ่งเกาก็ยิ่งมันส์ ยิ่งมันส์ก็ก็ยิ่งคัน ยิ่งคืนก็ยิ่งเกา วนไปวนมาแบบนี้ แอดมินเกาจนเลือดซิบเลยให้ตายสิ แต่เมื่อแอดมินได้พบกับขี้ผึ้งเบอร์ 28 เป็นครั้งแรก ก็ช่วยรักษาได้จนหายเป็นปลิดทิ้ง แต่ต้องทาบ่อย ๆ นะ เพื่อนบางคนแนะนำให้ใช้ซีม่าโลชั่น แต่เขาว่ามันแสบ แอดมินเลยไม่ได้ใช้ และไม่คิดจะลองด้วย


การฝึกนักเรียนใหม่ ก็เป็นดังในคลิปนี้น่ะครับ แต่สำหรับแอดมิน  จะเป็นสมัยที่เตรียมทหารยังอยู่ที่ถนนพระราม 4 ครับผม เห็นไหม ฝึกหนักทั้งวัน เหงื่ออก แล้วยังงี้จะไม่ให้สังคังขึ้นได้ไง

ช่วงนี้ยิ่งเข้าระเบียบมากขึ้น ทุกอย่างต้องทำให้ได้เป๊ะ ๆ ตามคำสั่ง เริ่มมีการฝึกระบบฉาก เช่น เวลารับประทานอาหาร การเคลื่อนไหวของมือและแขนก็ต้องทำแบบหุ่นยนต์ นั่งหลังตรง เอาก้นวางได้แค่ 1ใน3 ของเก้าอี้ เข่าชิด ปลายเท้าชิด เอาเข่าหนีบผ้ากันเปื้อนไว้เลย ถ้าผ้ากันเปื้อนใครหล่นพื้นแสดงว่าเข่าแตก ต้องรับโทษ

ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งนานหลายวัน แอดมินยิ่งคิดถึงบ้าน ยิ่งเวลาเหนื่อย เวลาร้อน เวลาท้อแท้ ยิ่งคิดถึงบ้านมากขึ้นเป็นทวีคูณ ปกติอยู่บ้านสบายดี ไม่คิดว่าชีวิตจะต้องมาลำบากลำบนขนาดนี้ ป่านนี้เพื่อน ๆ ที่โรงเรียนเก่าทำอะไรกันอยู่หนอ คงใช้ชีวิต ม.6 กันอย่างสนุกสนานซินะ ยิ่งคิดแบบนี้ จิตใจยิ่งเฟลลงไปใหญ่ แอดมินเองเพิ่งได้เรียนรู้จากโรงเรียนเตรียมทหารนี่แหละ ว่าเวลาคนเราออกจากบ้านมาแล้วเหนื่อย ลำบาก ท้อแท้ สิ่งแรกที่คิดถึงก็คือ บ้าน อยากกลับบ้าน

เพื่อนบางคนเริ่มลาออกกันไปแล้ว บ้างติดปัญหาเรื่องสุขภาพ หอบหืดบ้าง บาดเจ็บบ้าง ปรับตัวกับระบบทหารไม่ได้บ้าง ท้อถอยเองบ้าง แอดมินเองก็เคยมีบางแว่บของจิตใจที่คิดจะลาออกเหมือนกัน แต่เมื่อนึกถึงความหวังของพ่อแม่ ไม่อยากทำให้พ่อแม่เสียใจ นึกถึงตอนก่อนสอบเข้า เราเหนื่อยนะ ลำบากลำบานอ่านหนังสือหามรุ่งหามค่ำ ก็เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวทำให้จิตใจของแอดมินอดทนสู้ต่อไป

และแล้วเวลาก็ผ่านไปเกือบหนึ่งสัปดาห์ เป็นสัปดาห์ที่น่าเบื่อและท้อแท้เป็นอย่างยิ่ง มีบ้างเวลาผ่อนคลาย โดยเฉพาะตอนเย็น ๆ ซึ่งมีเวลาให้นั่งรวมแถวแล้วให้เพื่อนออกไปพูดความรู้สึก หรือเล่าเรื่องตลก ๆ บ้าง แต่ก็เป็นเวลาแค่เล็กน้อย พอหล่อเลี้ยงความรู้สึกให้มันดีขึ้นมาได้บ้าง จู่ ๆ ก็มีการป่าวประกาศจากผู้กองท่านหนึ่งซึ่งเป็นผู้ฝึกนักเรียนใหม่ และสั่งการด้วยวาจามายังคอมแมนด์ด้วย ว่าสัปดาห์นี้มีการเปลี่ยนแปลง จะปล่อยให้นักเรียนใหม่ได้กลับไปพักที่บ้านในวันเสาร์อาทิตย์ที่จะถึงนี้ ยังความดีใจมาให้กับแอดมินและเพื่อน ๆ ยิ่งนัก ที่จะได้กลับบ้าน(สวรรค์ของเรา) โดยที่หารู้ไม่มาก่อนเลยว่า เหตุการณ์นี้จะนำมาซึ่งการหลั่งน้ำตาเป็นครั้งแรกของแอดมินในโรงเรียนเตรียมทหารแห่งนี้

6 ความคิดเห็น:

  1. หล่อ ๆ เท่ห์ ๆ อย่างนี้แสดงว่าทุกคนต้องเคยเป็นสังคังชิมิ ^^ อัพเดทต่อแล้วมาเรียกด้วยนะ เผยแพร่ให้แล้ว

    ตอบลบ
  2. หล่อ ๆ เท่ห์ ๆ อย่างนี้แสดงว่าทุกคนต้องเคยเป็นสังคังชิมิ ^^ อัพเดทต่อแล้วมาเรียกด้วยนะ เผยแพร่ให้แล้ว

    ตอบลบ
  3. อดีตแอดมินหล่อจังเลยค่ะ ^__^
    ความรู้ดีๆและสนุกอย่างนี้ต้องบอกต่อค่ะ

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณพี่แอดมินสำหรับความรู้ดีๆครับ

    ตอบลบ
  5. ยินดีครับทุกท่าน เข้ามาอ่านกันบ่อย ๆ นะครับ หากได้แนะนำให้ผู้สนใจด้านนี้มาอ่านกันด้วย ก็ยิ่งดีครับผม

    ตอบลบ